เริ่มก่อนเลยค่ะ จากตอนที่แล้ว ตัวถัดมาคือฮุ่ย จะเห็นว่ามีหัวใจอยู่ด้านล่างอีกแล้ว เหมือนคำเอินของประโยคหน้า เพราะฉะนั้นเดาได้เลยว่าต้องเกี่ยวกับจิตใจ ส่วนผสมของคำนี้คือ 叀 + 心 ตัวแรกเป็นตัวช่วยออกเสียง บอกให้เรารู้ว่าออกเสียงเหมือน ฮุ้ย 叀 ที่แปลว่ากระสวยที่วางอยู่เหนือหัวใจ เพราะฉะนั้นรากหลักจึงมาจากคำว่าใจ ออกเสียงว่า ซิน ต้องย้อนไปดูตอนเก่าๆว่หัวใจทำไมถึงเขียนแบบนี้
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เรียนคำจีน ผ่านคำคม 4
เป็นหวัดไปเสีย 3-4 วันตามแฟชั่น หลังจากนั้นก็ผู้ใหญ่ของบริษัทเสียชีวิตลง ก็เลยวุ่นอยู่เป็นอาทิตย์ ต้องขอโทษด้วยนะคะ เลยไม่ต้องเนื่องเลย
กลับมาที่คำคมจีนชุดแรกกันดีกว่านะคะ ยังจำได้มั้ยคะ
ยังอ่านกันออกหรือไม่คะ
กลับมาที่คำคมจีนชุดแรกกันดีกว่านะคะ ยังจำได้มั้ยคะ
施恩不要提 受惠时常道。
ยามให้ไม่ควรคิด ยามรับควรตอบแทนคุณยังอ่านกันออกหรือไม่คะ
"ซือเอินปู้เย้าถี" "โซ่วฮุ้ยซูฉางเต้า"
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เรียนคำจีน ผ่านคำคม 3
ดีใจนะคะที่การเขียนบทความนี้แล้วมีคนสนใจเหมือนกัน เพราะอยากแบ่งปันเพื่อคนไทยเราจะได้ไม่เสียเปรียบใครไงคะ
คำคมชุดแรกยังเขียนได้ไม่ครบทุกตัวเลยนะคะ 施恩不要提 เรามาต่อที่คำว่า ปู้ 不 ที่แปลว่าไม่ เป็นภาพแสดงถึงนกบินขึินสู่ท้องฟ้าที่เป็นขีดบนสุด ซึ่งฟ้าคือขีดจำกัดของนก ก็คือถูกจำกัดถูกห้าม โบราณจึงต้องการแสดงถึงคำว่าไม่
เหย้า 要 มาจากรูปโบราณ แปลว่าต้องการ คำนี้อยากแนะนำให้จำรูปไปเลย เพราะถ้าไปทำความเข้าใจรากจะงงไปกันใหญ่
คำคมชุดแรกยังเขียนได้ไม่ครบทุกตัวเลยนะคะ 施恩不要提 เรามาต่อที่คำว่า ปู้ 不 ที่แปลว่าไม่ เป็นภาพแสดงถึงนกบินขึินสู่ท้องฟ้าที่เป็นขีดบนสุด ซึ่งฟ้าคือขีดจำกัดของนก ก็คือถูกจำกัดถูกห้าม โบราณจึงต้องการแสดงถึงคำว่าไม่
เหย้า 要 มาจากรูปโบราณ แปลว่าต้องการ คำนี้อยากแนะนำให้จำรูปไปเลย เพราะถ้าไปทำความเข้าใจรากจะงงไปกันใหญ่
เรียนคำจีน ผ่านคำคม 2
ถ้าวันนี้ถามว่าความเมตตาเขียนอย่างไร คงนึกภาพกันออกแล้วใช่มั้ยคะ แต่เมื่อวานลืมบอกว่าแต่ละองค์ประกอบของ เอิน 恩นั้นอ่านว่าอะไร 口อ่านว่าโค่ว 大อ่านว่าต้า 心 อ่านว่าซิน ศึกษาคำเดียวได้ตั้ง 3 คำย่อย คุ้มไปเลยค่ะ
ทีนี้มาดูคำว่า ซือ 施 รูปโบราณ ถ้าตามหลักฐานโบราณเขาบอกว่ามาจากคำโบราณ 2 คำคือ 尹 เป็นรูปมือถือไม้เท้า ดูออกมั้ยคะ อันนี้ คือมือค่ะ มี 3 นิ้วพอเพื่อความง่าย กับ 虫 ที่เป็นสัญญลักษณ์ของงู ที่เอามารวมกันอันหมายถึงการขับไล่สัตว์ป่าให้พ้นไป พอเขียน 尹 ไปนานๆ รูปก็เลยเพี้ยนไปเป็น 方 กับ 它 แต่ถ้าจำแบบนี้คงยากนะคะเพราะเพี้ยนรูปไปมากค่ะ
ทีนี้มาดูคำว่า ซือ 施 รูปโบราณ ถ้าตามหลักฐานโบราณเขาบอกว่ามาจากคำโบราณ 2 คำคือ 尹 เป็นรูปมือถือไม้เท้า ดูออกมั้ยคะ อันนี้ คือมือค่ะ มี 3 นิ้วพอเพื่อความง่าย กับ 虫 ที่เป็นสัญญลักษณ์ของงู ที่เอามารวมกันอันหมายถึงการขับไล่สัตว์ป่าให้พ้นไป พอเขียน 尹 ไปนานๆ รูปก็เลยเพี้ยนไปเป็น 方 กับ 它 แต่ถ้าจำแบบนี้คงยากนะคะเพราะเพี้ยนรูปไปมากค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เรียนคำจีน ผ่านคำคม
ผ่านไป 3 วันแล้วที่ได้ทวิตคำคมจีนให้เพื่อนๆหัดพูดกัน แบบภาพยนต์เรื่อง The Reader ที่นางเอกให้พระเอกอ่านนิยายให้ฟังจนจำได้ทุกตอนขึ้นใจ ปรากฎว่าพอติดคุกได้มีโอกาสยืมหนังสือมาอ่านประกอบกับพระเอกส่งเทปเสียงที่อ่านนิยายให้ฟังไปปลอบใจในคุก ทำให้นางเอกเลยอ่านหนังสือออกเลยจากความพยายามแกะตัวหนังสือตลอดเวลาที่อยู่ในคุก
ที่เล่าเพื่อจะบอกว่าต้องพูดไ้ด้ก่อนจึงอ่านได้และเขียนได้ เหมือนในภาพยนต์และที่ลูกชายผ่านมาตอนไปเรียนอยู่อนุบาลหนูน้อย ลูกชายมาเขียนหนังสือได้ตอน ป.1 เอง ก่อนหน้านั้นมีภาษาเป็นของตัวเองค่ะ เขียนแล้วเข้าใจเอง โรงเรียนบอกว่านั่นแหละเขาจะอ่านได้เองเมื่อวัยเขาพร้อม แล้วก็จริงนะคะ เก่งเลยค่ะ
มาพูดเรื่องคำคมที่ผ่านมา
"ซือเอินปู้เย้าถี" ยามให้ไม่ควรคิด "โซ่วฮุ้ยซูฉางเต้า" ยามรับควรตอบแทนคุณ เขียนเป็นภาษาจีนอย่างนี้ค่ะ 施恩不要提 受惠时常道。
คำจีนคำแรก 2 คำแรกต้องอ่านพร้อมกันจึงจะหมายถึงกิจเมตตา 施恩 ซือเอิน วิธีจำก็คือ จะเห็นว่าคำที่สองประกอบด้วยใจ 心 + ความยิ่งใหญ่ 大 + อยู่ในกรอบ 口= ความเมตตาวันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555
เข้าใจลูกผ่านลายมือ 4
尽人事 听天上。
การเป็นคนต้องพยายามทำดีที่สุด
นอกจากนี้แล้วแต่ฟ้าลิขิต
มาถึงตอนสุดท้ายของเข้าใจลูกผ่านลายมือแล้วนะคะ
อ่านแค่ 4 ตอนนี้รับรองเข้าใจลูกได้ขึ้นเยอะ เขียนคำคมภาษาจีนไว้เพื่อเตือนใจคุณพ่อคุณแม่ว่าให้โอกาสลูกที่จะทำดีที่สุดตามศักยภาพของเขา
แล้วที่เหลือขอให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ เคยอ่านคำกลอนหนึ่งชอบมาก
If I had my child to raise all over again,
I'd build self-esteem
first, and the house later.
I'd finger-paint more, and point the finger less.
I would do less correcting and more connecting.
I'd take my eyes off my watch, and watch with my eyes.
I'd take
more hikes and fly more kites.
I'd stop playing serious, and seriously play.
I would run
through more fields and gaze at more stars.
I'd do more hugging and less
tugging.
วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555
เข้าใจลูกผ่านลายมือ 3
มาถึงตอนที่
3 แล้วนะคะ มีความในใจอยากให้ผู้อ่านช่วยนิดนึงนะคะ
ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะว่าเรื่องที่เขียนมีประโยชน์มั้ย อยากให้ทำอะไรอีก
อยากให้เพิ่มอะไรบ้าง หรืออยากแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ได้ทั้งนั้นค่ะ
เพราะอยากรู้จังว่าคนอ่านคิดยังไง
ดังที่ได้ปิดท้ายไว้ตอนที่แล้วนิ้วที่ยาวกว่าฝ่ามือและมีข้อเป็นนิ้วของนักปรัชญา
บางคนเป็นนักคิดจนลักษณะนิ้วที่เห็นเป็นข้อตอนข้อสุดท้ายจะหักงอได้ คล้ายนิ้วตะขอ
เคยเห็นคุณหมอท่านนึงมีลักษณะนิ้วดังกล่าว ถามดูจึงทราบว่าจัดรายการ
เขียนหนังสือเพื่อแสดงความคิดเห็นของตัวเอง ที่เป็นประสบการณ์ผ่านมา
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555
เข้าใจลูกผ่านลายมือ 2
ก็อย่างที่บอกนะคะ ว่าการเลี้ยงลูกก็เหมือนปลูกต้นไม้ ลองคิดดูนะต้นไม้ในป่ามักจะเจริญเติบโตแข็งแรงได้เอง ถ้าได้เกิดที่ดินดี แต่ถ้าดินไม่ดีก็แย่เหมือนกัน ดังนั้นในฐานะพ่อแม่ก็จงทำตัวให้เป็นดินดีพร้อมเสมอสำหรับลูก เราขาดปุ๋ยอะไรที่จะช่วยลูก ก็เติมเอานะคะ อย่างตอนนี้ลูกสาวโตมากแล้วอยากจะลงทุนในหุ้น เราก็ขาดความรู้เลยบอกว่าเดี๋ยวแม่จะลองศึกษาดู เพื่อว่าจะได้แนะนำลูกถูก เพราะเราขาดปุ๋ยตัวนี้ไง ลองไปหาอ่านดูในบล็อกเรื่องหุ้นกับลูกนะคะ และปล่อยให้ลูกได้เจริญเติบโตตามอัตลักกษณ์ของตน ไม่ต้องไปเร่งไปคาดหวัง คอยเฝ้าดู ขาดเหลืออะไรก็เติมเต็มให้ต้นสมบูรณ์ คิดว่าทุกคนก็จะมีครอบครัวที่เข้าใจกันนะคะ
ทีนี้มาตอน 2 ก็ขอต่อเลยนะคะ
วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555
เข้าใจลูกผ่านลายมือ 1
ไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ จริงๆเป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่ว่าคนจะเรียกสิ่งที่ยังไม่เข้าใจว่าเป็นไสยศาสตร์ และสิ่งที่อธิบายเป็นตุเป็นตะว่าวิทยาศาสตร์ แต่องค์พระพุทธเจ้าเป็นอัจฉริยะที่เข้าใจทั้งสองเรื่องอย่างลึกซึ้ง ที่เขียนนี่ก็เพื่อให้ผู้ที่มาอ่านได้ประโยชน์คือไม่ให้งมงาย เพราะวิทยาศาสตร์คือการนำเรื่องที่เราไม่รู้มาหาเหตุผล เพื่อต่อยอดความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป
“พระพุทธศาสนาต้องเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็น Philosophy ก็ยังไม่ถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา เป็นการศึกษาคาดคะเน เทียบเคียงเกี่ยวกับพุทธศาสนา ถ้าเป็นไสยศาสตร์มันก็เป็นเปลือกหุ้มนอกสุดของศาสนา ติดมาในสมัยดึกดำบรรพ์ ไม่ใช่พระศาสนาที่แท้จริง ขอให้ยึดหลักธรรมะ ตามวิทยาศาสตร์เสมอ เพราะมันคือหน้าที่ของสิ่งมีชีวิต ตามกฎของธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสมจะให้ชีวิตอยู่รอด ที่ว่า The fitted is survival ถ้าไม่เหมาะสมก็คือไม่รอด แล้ว fitted มันก็คือมัชฌิมาปฏิปทา ที่เรารู้ดีว่าเป็นหัวใจของพุทธศาสนาอย่างไร”
สนทนาเรื่องธรรมคำเดียว พุทธทาสภิกขุ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)