คำคมชุดแรกยังเขียนได้ไม่ครบทุกตัวเลยนะคะ 施恩不要提 เรามาต่อที่คำว่า ปู้ 不 ที่แปลว่าไม่ เป็นภาพแสดงถึงนกบินขึินสู่ท้องฟ้าที่เป็นขีดบนสุด ซึ่งฟ้าคือขีดจำกัดของนก ก็คือถูกจำกัดถูกห้าม โบราณจึงต้องการแสดงถึงคำว่าไม่
เหย้า 要 มาจากรูปโบราณ แปลว่าต้องการ คำนี้อยากแนะนำให้จำรูปไปเลย เพราะถ้าไปทำความเข้าใจรากจะงงไปกันใหญ่
คำสุดท้าย 提 ที๋ แปลว่าพูดถึง กล่าวถึง เสนอ ยก
ตัวหลักคือตัวหน้า 扌ซึ่งเป็นตัวลดรูปของคำว่ามือ 手 โส่ว ส่วนตัวท้ายเป็นการยืมมาเป็นตัวสะกดเพื่อเสียงเท่านั้น แต่ก็มีความหมายเหมือนกัน
是 ซื่อ แปลว่าใช่ จริง ถูก เอามารวมกันเข้า มือต้องการสื่อถึงการยก เน้นด้วยซื่อก็จะบอกว่ายกย่อง หรือกล่าวถึงนั่นเอง
ทีนี้มาดูรูปของมือกันดีกว่านะคะ แล้วก็เลยกลายมาเป็น 手
ส่วน 是 มีสององค์ประกอบ 止 จื้อ คือหยุด 日 รึคือพระอาทิตย์ หมายถึงการหยุดภายใต้แสงของวัน คือตรงเพ้ง จึงนำมาสื่อถึงคำว่าถูกต้อง จริง ใช่ นั่นเอง
คำว่าหยุด เป็นรูปของอะไร เป็นรูปของต้นหญ้าดังรูป ข้างบน จึงได้รูป 止 ตอนสมัยโบราณเป็นคำที่แสดงถึงที่ใช้ปลูกต้นหญ้า แล้วต่อมาก็มาใช้แทนคำว่านิ้วโป้งของเท้า เพราะเขาจินตนาการว่าเคนยืนอยู่แล้วยกหัวแม่มือเท้าขึ้น
เนื่องจากลำต้นหญ้าตั้งตรงนิ่ง จึงมาใช้แปลว่าหยุดหรือนิ่ง
คำสุดท้ายพระอาทิตย์นี่ง่ายที่สุด ดูจากรูปข้างบนก็จะเข้าใจได้
วันนี้เรียนหลายคำมากเลย มีปู๋ มีเหย้า มีที๋ ในที๋ก็ได้อีก 5 คำ คือ ตัวที๋เอง โส่ว ซื่อ รึ และจื้อ จำไหวมั้ยคะ
提 手 是 日 止 นึกออกมั้ยคะว่ามีรากมาอย่างไร จะได้จำได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You are free to comment. We will treat it as our honor.