|
วันที่ 2 ของความตั้งใจแล้วนะ ถ้าพูดถึงการทำบุญแล้ว จำได้แม่นเลยว่าคุณแม่สอนว่าการทำบุญที่ดีที่สุดคือการช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆ เช่นขับรถไปเจออุบัติเหตุคนเสียชีวิต ทำบุญโลงศพไป หรือเจอสะพานหัก ซ่อมให้เขาเลย ได้บุญเพราะใจเราเป็นกุศลเวลานั้น
หลังจากได้เหงื่อจากการไปออกกำลังกาย........
ฮิลตัน : บริษัทโซเซชวนเราพรุ่งนี้ไปทำอาหารเลี้ยงเด็กกันที่พัทยานะ
ลอนดอน : มันเป็นวันพักผ่อนของเรานะคะ อีกอย่างครอบครัวท่านประธานก็ชวนเราไปทำบุญที่คริสเตียนนะคะ
ฮิลตัน : แต่เราอยากไปที่พัทยามากกว่าเพราะเราอยากไปให้กำลังใจพวกเขา ตอนนี้ที่นั่นมีหนี้เป็น 100 ล้านแล้วนะ เพราะการช่วยเหลือคนนี่แหละ
ลอนดอน : บางทีนะคะ อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคุณฮิลตันถึงอยากช่วยองค์กรนี่นัก ทั้งที่เราก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตัดมาช่วงบ่าย.....เสียงสัญญาณจาก
ลอนดอน : คุณฮิลตันจะทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กร่วมกับคณะท่านประธานเท่าไหร่ดีคะ ท่านกำลังระดมเงินค่ะ
ฮิลตัน : ดูยอดสรุปอีกทีก่อนนะ เพราะเราทำบุญก็ต้องดูกำลังด้วยนะ
ลอนดอน : ค่ะ ช่วงนี้มากหลายฝ่ายนะคะ
What wouldst thou be found doing when overtaken by Death? If I might choose, I would be found doing some deed of true humanity, of wide import, beneficent and noble. But if I may not be found engaged in aught so lofty, let me hope at least for this - what none may hinder, what is surely in my power - that I may be found raising up in myself that which had fallen; learning to deal more wisely with the things of sense; working out my own tranquillity, and thus rendering that which is its due to every relation of life….
Epictetus (Golden Sayings of Epictetus)
บทอ่านจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล (อสค 16:59-63)
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส เราจะทำกับเจ้าอย่างที่เจ้าได้ทำ เจ้าได้ดูหมิ่นคำสาบานและละเมิดพันธสัญญา แต่เรายังระลึกถึงพันธสัญญาของเรากับเจ้าเมื่อเจ้ายังเป็นสาว เราจะทำพันธสัญญากับเจ้าซึ่งจะคงอยู่ตลอดไป แล้วเจ้าจะระลึกถึงความประพฤติของเจ้าและจะอับอาย เมื่อเจ้าจะรับทั้งพี่และน้องสาวของเจ้า เราจะมอบเขาให้เป็นบุตรสาวของเจ้า แม้ไม่เป็นเงื่อนไขของพันธสัญญาที่เราทำกับเจ้า เราจะรื้อฟื้นพันธสัญญาของเรากับเจ้า เจ้าจะรู้ว่าเราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเจ้าจะได้จดจำและมีความละอาย และจะไม่อ้าปากพูดอีกเพราะความอับอาย เมื่อเราจะให้อภัยทุกสิ่งที่เจ้าได้ทำ” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว (มธ 19:3-12)
เวลานั้น ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาเพื่อจับผิดพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ ที่ชายจะหย่าร้างกับภรรยาเนื่องด้วยเหตุใดก็ตาม” พระองค์ทรงตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านพระคัมภีร์หรือว่าเมื่อแรกนั้นพระผู้สร้างทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และตรัสว่า ดังนี้ ชายจะละบิดามารดาไปสนิทอยู่กับภรรยาของตนและชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน
เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้น สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าได้แยกเลย”
ชาวฟาริสีจึงทูลถามว่า “แล้วทำไมโมเสสจึงสั่งให้ชายทำหนังสือหย่าร้าง แล้วหย่าร้างได้” พระองค์ตรัสว่า “เพราะใจดื้อแข็งกระด้างของท่าน โมเสสจึงยอมอนุญาตให้หย่าร้างได้ แต่เมื่อแรกเริ่มนั้น หาเป็นเช่นนี้ไม่
เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณี เว้นแต่ในกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง”
บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า “ถ้าสภาพของสามีกับภรรยาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควรจะแต่งงานเลย” พระองค์ตรัสว่า “ไม่ใช่ทุกคนเข้าใจคำสอนนี้ คนที่เข้าใจคือคนที่พระเจ้าประทานให้ เพราะว่า บางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนถูกมนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันทีเพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์ ผู้ที่เข้าใจได้ ก็จงเข้าใจเถิด”
>>>>>>>>>>>>>>>>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
You are free to comment. We will treat it as our honor.