วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อยากให้ลูกเก่ง ติวเตอร์ทำให้การศึกษาลูกเราเสียหายในระยะยาวหรือไม่ ตอนที่ 2

จะไปติวแล้ว จะไปติว.........

เมื่อตอนที่แล้วได้เกริ่นไว้แล้วว่า การส่งลูกไปติวไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องมีเป้าหมาย หัวใจสำคัญของการติวในมุมมองของผู้เขียนคือการสร้างอิสระทางปัญญาให้กับเด็กที่ผ่านการติว หมายความว่าเด็กมีความสามารถที่จะต่อยอดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ได้ทุกเรื่อง ด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่รอบตัว เอาล่ะมาดูว่าจะติวกันให้ดี เป็นยังไง

การติวที่ดี คือ สอนเด็กให้รู้วิธีการเรียนรู้

หากคุณพิจารณาดูแล้วว่าลูกของคุณได้พยายามที่สุดแล้ว การมีติวเตอร์ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อันนี้คุณต้องไม่ใจร้อน ไม่ต้องกลัวลูกลำบาก หรือเหนื่อย และเมื่อตัดสินใจหาติวเตอร์แล้ว อย่าลืมว่าเราจะต้องทำให้เขาไม่ติดติวเตอร์คือเกิดอิสระทางปัญญา แน่นอนติวเตอร์ที่จะเลือกมาติวต้องสอนเนื้อหาและหลักวิชาการด้วย แต่เขาจะต้องไม่หยุดแค่สอนเท่าที่ต้องสอน ติวเตอร์ที่ดีต้องสามารถเพิ่มศักยภาพให้กับลูกของคุณที่จะสามารถเผชิญกับประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง คือต้องทำให้เด็กรู้ว่าปัญหาหรือโจทย์ที่เจอหากเกิดขึ้นแล้วต้องคิดยังไง มีขั้นตอนแก้หรือหาคำตอบอย่างไรได้บ้างด้วยตนเอง จะไม่วิ่งโร่หรือยอมแพ้ในทันที ติวเตอร์ที่ดีต้องติวเพื่อเตรียมตัวตกงานให้เร็วที่สุดโดยการส่งเด็กกลับเข้าสู่ชีวิตปกติธรรมดาที่ต้องเผชิญอุปสรรคปัญหาในการเรียนเหมือนคนอื่นๆ แต่สามารถที่จะผ่านไปได้ด้วยตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

อยากให้ลูกเก่ง ติวเตอร์ทำให้การศึกษาลูกเราเสียหายในระยะยาวหรือไม่ ตอนที่ 1


การศึกษาพ่อแม่ทุกคนตระหนักดีว่าเป็นเรื่องสำคัญของลูก พ่อแม่เห็นความสำคัญจนเป็นความกังวลและความเครียดและต้องยอมเสียเงินมากมายเพื่อให้ลูกได้เข้าไปติวในสถานศึกษาที่ใครๆเขาบอกว่าดีที่สุด ที่จะทำให้ลูกเราเข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่ดีได้ ยอมรอคิวกันเป็นเดือนๆ ทำให้เรื่องนี้เป็นความกังวลของผู้เขียน   เพราะคุณพ่อคุณแม่กำลังหวังดีประสงค์ร้าย ทำให้ระบบการเรียนรู้โดยทักษะของตัวเองของลูกหายไป ก่อเกิดเป็นคนขาดความมั่นใจและปิดซ่อนไว้ด้วยความก้าวร้าวหรือดื้อรั้น หัวแข็ง มั่นใจในตัวเองแบบผิดๆ

มีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่ผู้เขียนมักจะบอกกับลูกเสมอว่า "ถ้าเราเป็นทุเรียน เราก็เป็นทุเรียนที่อร่อยแบบทุเรียน อย่าพยายามเป็นทุเรียนที่อร่อยเหมือนมะม่วง เพราะเราจะเป็นไม่ได้ดีทั้งมะม่วงและทุเรียน และคนกินก็ต้องรู้ว่าอยากกินทุเรียนอร่อย หนามย่อมแหลมคม"

การพยายามส่งลูกไปติวก็เหมือนการทำทุเรียนให้เป็นมะม่วง เนื้อแท้ของลูก็จะหายไป ผู้เขียนอาจเป็นคนไม่เห็นด้วยกับวิธีส่งลูกไปติว แต่ก็มีเหตุผลนะคะ


การติวไม่ใช่ไม่ดีหรือไม่ควรมี แต่ควรจะดูที่ความเหมาะสม ยังไง เดี๋ยวมาคุยกัน แล้วก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรที่เขาเรียกว่าการติวที่ดี และผู้ปกครองจะมีส่วนช่วยการติวให้สำเร็จด้วยดีได้อย่างไร