วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563

For My Treasured Family.........Challenge Day 4 ไปม็อบไหม

Bible Diary 17/8/2020


ลอนดอน : คุณฮิลตัน เราไปม็อบกันไหมคะ
ฮิลตัน : คงไม่ไปค่ะ
>>>หวนนึกถึงการไปม็อบครั้งแรกตอนปีหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่อธิการบดี เราไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่ารุ่นน้องใหม่ต้องไปนั่งหน้าทบวงฯทุกคน ไม่ไปไม่เป็นไรจ้า แต่รุ่นพี่จำแม่น สุดท้ายเราได้อะไร.....ไม่รู้เรื่องเลย

ลอนดอน : คุณฮิลตันคะ คิดอะไรอยู่หรือคะ
ฮิลตัน : อ๋อ ก็กำลังคิดหาเหตุผลน่ะ ว่าการที่เราไม่ไปนั้นมันขัดแย้งกับเสียงในสมองของเราหรือเปล่า เราพยายามจะได้ยินตัวเองอยู่ โดยไม่เอาความรู้สึกพวกพ้องมาเกี่ยวข้องน่ะ
ลอนดอน : แล้วได้ยินว่าไงคะ
ฮิลตัน : ก็เริ่มจากการรู้จักตัวเองก่อนไง ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิหรือธรรมชาติให้เรามาทำอะไร อย่างนกนี่ เช้ามาก็บินออกไปทำมาหากิน หากถิ่นที่อยู่แร้นแค้นลง ก็ย้ายถิ่นฐาน ไปที่เหมาะสม หรือถ้าต่อสู้เพื่ออยู่รอดไม่ได้ เผ่าพันธ์ก็หายไป นี่เป็นกฎธรรมชาติ เป็นกฎของทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ไม่เลือกอะไรทั้งนั้น แม้แต่ต้นไม้ในป่าก็เช่นกัน ธรรมชาติไม่เคยโหดร้ายนะ แต่การไม่เข้าใจธรรมชาตินี่สิโหดร้าย ยากไปไหม
ลอนดอน : ไม่ค่ะ กำลังสนุก ต่อเลยค่ะ
ฮิลตัน : หลักสำคัญเลยนะ คือคนเราเกิดมาเพื่อทำตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อ Common Good อย่างนกจับหนอนก็เพื่อให้วัฏจักรชีวิตมันสมดุล ทีนี้คนฉลาดกว่านก มันก็เลยไม่สมดุล มันก็เลยมีม็อบ ทีนี้ถ้าม็อบนี้เพื่อ Common Good ก็แสดงว่าจะไม่มีม็อบอีกฝ่ายที่เสียประโยชน์มาหักล้าง จริงมะ แต่ที่มีเพราะมันไม่ใช่ Common Good นะ และนี่แหละคือธรรมชาติ ผลัดกันไปมา ลองมาคิดดูนะ แต่เล็กเราก็มีเหตุผลที่เราทะเลาะกับเพื่อนเสมอๆ ซึ่งจริงๆแล้วคิดให้ดีทุกคนก็มีเหตุผล แต่ถ้าในภาวะแบบนี้ เราอยากทำเพื่อ Common Good ไม่เห็นต้องไปเป็นรัฐบาลเลย ทำเรื่องในขอบเขตของเรา ให้ดีเพื่อส่วนรวมก็ได้แล้ว ในชุมชน ในเขตเมือง....เราอาจจะคิดไม่เหมือนใคร แต่เราว่าคงไม่ไปม็อบหรอก มันมีอีกตั้งหลายวิธีที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวม ดู Winston Churchill สิ



Don’t waste the rest of your time here worrying about other people—unless it affects the common good. It will keep you from doing anything useful. You’ll be too preoccupied with what so-and-so is doing, and why, and what they’re saying, and what they’re thinking, and what they’re up to, and all the other things that throw you off and keep you from focusing on your own mind.
Remember how long you’ve been putting this off, how many extensions the gods gave you, and you didn’t use them. At some point you have to recognize what world it is that you belong to; what power rules it and from what source you spring; that there is a limit to the time assigned you, and if you don’t use it to free yourself it will be gone and will never return. 5. Concentrate every minute like a Roman—like a man—on doing what’s in front of you with precise and genuine seriousness, tenderly, willingly, with justice. And on freeing yourself from all other distractions. Yes, you can—if you do everything as if it were the last thing you were doing in your life, and stop being aimless, stop letting your emotions override what your mind tells you, stop being hypocritical, self-centered, irritable. You see how few things you have to do to live a satisfying and reverent life? If you can manage this, that’s all even the gods can ask of you.

บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์ (วว 11:19ก;12:1-6ก,10ก)
           
พระวิหารของพระเจ้าในสวรรค์เปิดออก มองเห็นหีบพันธสัญญาในพระวิหาร เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือสตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจะคลอดบุตร


              เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละหัวสวมมงกุฎ หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้าให้ตกลงมาบนแผ่นดิน มังกรยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่กำลังจะคลอดบุตรเพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่คลอด นางคลอดบุตรเป็นชาย ซึ่งจะต้องปกครองชาติทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกคว้าตัวขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์ ส่วนสตรีนั้นหลบหนีไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้
ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากสวรรค์ว่า “บัดนี้ ความรอดพ้น พระอานุภาพและพระราชอาณาจักรเป็นของพระเจ้าของเราแล้ว และอำนาจเป็นของพระคริสต์ของพระองค์”

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง (1 คร 15:20-26,)
           พี่น้อง ความจริง พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น แต่จะเป็นไปตามลำดับของแต่ละคน พระคริสตเจ้าทรงเป็นผลแรก ต่อไปก็คือผู้ที่เป็นของพระคริสตเจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา แล้วจะถึงวาระสุดท้าย เวลานั้นพระองค์จะทรงมอบพระอาณาจักรให้แก่พระเจ้าพระบิดา หลังจากทรงทำลายการปกครอง อำนาจและอานุภาพทั้งหลาย เพราะพระคริสตเจ้าจะต้องทรงครองราชย์จนกว่าพระเจ้าจะทรงปราบศัตรูทั้งมวลให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ ศัตรูสุดท้ายที่จะถูกทำลายคือความตาย เพราะพระเจ้าทรงปราบทุกสิ่งให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา (ลก 1:39-56)
           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”

           พระนางมารีย์ ตรัสว่า “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้ทรงกอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป
พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ

>>>>>>>>>>>>>


วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563

For My Treasured Family.........Challenge Day 3 การใช้ชีวิต

วันนี้วันอาทิตย์ ตื่นสายกว่าปกติไปหน่อย เพราะเพลียจากการขับรถและอายุที่มากขึ้น หลายสิบปีมานี้ เราก็เข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้น การฝึกสมาธิหลากหลายสำนักที่ผ่านมา จบลงที่ GOENKA เพื่อการรู้จักตัวเองและความหมายของการมีชีวิต เหมือนคำสอนของพระคัมภีร์ที่แสดงว่าพระทรงสร้างเรามาเพื่อใช้ชีวิตตามพระฉายาของพระองค์

ลอนดอน : ทำไมคุณฮิลตันต้องทำแบบนี้ค่ะ เกี่ยวข้องกับคนเยอะไปหมด ตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว
ฮิลตัน : ไม่รู้สิ เราอาจจะเกิดมาเป็นแบบนี้ เสียงในสมองเราบอกแบบนี้ และเราไม่อยากสงสัย เพราะความสงสัยไม่ใช่ธรรมชาติ พระพุทธเจ้าต้องการให้เราเข้าใจธรรมชาติ พระคัมภีร์ก็บอกให้เราทำตัวเหมือนเด็กที่ใสซื่อ......

จริงๆแล้วเหตุการณ์หลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เป็นตัวกระตุ้นทำให้เราคิดได้อีกหลายเรื่อง ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติ ธรรมชาติไม่มีความโหดร้าย แต่ความไม่เข้าใจธรรมชาตินั่นแหละโหดร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างที่เราต้องพบก็เกิดขึ้นจากเราเองทั้งนั้น อันนี้เป็นความจริง ไม่ต้องไปหาความจริงที่ไหน และถ้าเราต้องการคิดเปลี่ยน ก็ต้องเปลี่ยนที่เรา ไม่ต้องไปหวังการเปลี่ยนแปลงใดๆ ถ้าชีวิตที่ผ่านมาใครอยากเข้าใจว่าเราทำอะไรเพราะอะไร....ง่ายๆเลย

"getting the most out of ourselves, calculating where our duty lies, analyzing what we hear and see, deciding whether it’s time to call it quits—all the things you need a healthy mind for........If there were anything harmful on the other side of death, they would have made sure that the ability to avoid it was within you."

Don’t ever forget these things:
The nature of the world.
My nature. 
How I relate to the world. 
What proportion of it I make up. 
That you are part of nature, and no one can prevent you from speaking and acting in harmony with it, always.

IT IS ME - Home | Facebook


Nature (Quote) | Intimate relationship, Nature quotes, J ...

“Let us keep to the way which Nature has mapped out for us, and let us not swerve therefrom. If we follow Nature, all is easy and unobstructed; but if we combat Nature, our life differs not a whit from that of men who row against the current...................We are members of one great body, planted by nature … We must consider that we were born for the good of the whole.” Seneca quoted.

บทอ่านจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล (อสค 18:1-10,13ข,30-32)
 
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ทำไมท่านทั้งหลายจึงกล่าวคำพังเพยนี้ซ้ำซากในแผ่นดินอิสราเอลว่า ‘พ่อกินผลองุ่นเปรี้ยว แต่ลูกเข็ดฟัน’
เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส ท่านทั้งหลายจะต้องไม่ใช้คำพังเพยนี้อีกต่อไปในอิสราเอล ดูซิ ชีวิตทั้งหลายเป็นของเรา ชีวิตของพ่อเป็นของเราฉันใด ชีวิตของลูกก็เป็นของเราฉันนั้น ผู้ใดทำบาป ผู้นั้นจะต้องตาย”

“ถ้าคนหนึ่งเป็นผู้ชอบธรรม ปฏิบัติความถูกต้องและความยุติธรรม ถ้าเขาไม่กินของถวายตามสักการสถานบนที่สูง ไม่เงยหน้าขึ้นคารวะรูปเคารพของพงศ์พันธุ์อิสราเอล ไม่ล่วงเกินภรรยาของเพื่อนบ้าน ไม่เข้าหาหญิงที่มีประจำเดือน ไม่ข่มเหงผู้อื่น แต่คืนของประกันแก่ลูกหนี้ ไม่ลักทรัพย์ แต่ให้อาหารแก่ผู้หิวโหยและให้เสื้อผ้าแก่ผู้ไม่มีเสื้อผ้าคลุมกาย ไม่ให้ผู้อื่นยืมเงินเพื่อเรียกดอกเบี้ยหรือหากำไร ยั้งมือไว้ไม่ทำความชั่ว ตัดสินคู่ความอย่างยุติธรรม ดำเนินชีวิตตามข้อกำหนดและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของเราอย่างซื่อสัตย์ คนนั้นก็เป็นผู้ชอบธรรม เขาจะมีชีวิต” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส
“แต่ถ้าคนหนึ่งมีบุตรเป็นโจร เป็นฆาตกร และทำความชั่วเหล่านี้ เขาจะไม่มีชีวิตอย่างแน่นอน เขาจะต้องตายแน่ๆ เพราะเขาได้ทำสิ่งน่าสะอิดสะเอียน และจะต้องตายเพราะความผิดของตน”
ดังนั้น พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะพิพากษาแต่ละคนตามความประพฤติของเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส จงกลับใจและเลิกการล่วงละเมิดทั้งหมดของท่าน แล้วความผิดของท่านจะไม่เป็นเหตุให้ท่านพินาศ จงละทิ้งการล่วงละเมิดทั้งหมดที่ท่านได้ทำ จงทำตนให้มีใจใหม่และจิตใหม่ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ทำไมท่านจะต้องตายเล่า เราไม่พอใจในความตายของผู้ใด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส จงกลับใจเถิด แล้วท่านจะมีชีวิต”

สดด 51:10-12ก,12ข-13,16-17

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว (มธ 19:13-15)
                ขณะนั้น มีผู้นำเด็กเล็กๆ มาให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์อวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ปล่อยให้เด็กเล็กๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้” พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ให้เด็กเหล่านั้น แล้วจึงเสด็จไปจากที่นั่น


>>>>>>>>>>>>>>>>